ผีอีกประเภทที่คนไทย คนทั่วโลกต่างรู้จักกันดีนั่นคือผีดูดเลือดแวมไพร์ อันที่จริงอาจบอกได้ว่าคนทั่วโลกรู้จักแวมไพร์คงมาจากการสร้างภาพยนตร์ที่เอาเรื่องราวมาผสมผสานกับความดุร้ายของผีชนิดนี้ได้ค่อนข้างลงตัวอย่างมาก เป็นตำนานที่ถูกเล่าขานสืบต่อกันมาของชาวยุโรปขนาดว่าสมัยนี้ยังมีบางคนรู้สึกได้ว่าผีแวมไพร์ยังไม่ได้ไปจากพวกเขา

ตำนานผีดูดเลือดแสนสยดสยอง แวมไพร์

แวมไพร์คือผีดูดเลือดชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรปในยุคกลาง ว่ากันว่าผีประเภทนี้คือผีดิบ รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากมนุษย์ แต่ฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์เป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต แวมไพร์คือผีที่มีชีวิตอมตะ ไม่มีวันตาย ปรากฏตัวเฉพาะช่วงเวลากลางคืนเท่านั้นเนื่องจากแพ้แสงแดด ในตอนกลางวันพวกมันจะหลบซ่อนตามโลงศพหรือในหลุมมืดไม่มีแสงสว่างส่องถึง มีการบอกกล่าวอีกว่าแวมไพร์สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ต่างๆ ได้หลายชนิดเพื่อหลอกตาคนอื่นๆ เช่น นกฮูก, ค้างคาว, หมาป่า, หมาจิ้งจอก, คางคก, กบ, งูพิษ, แมลงเม่า มีวิชาในการบดบังให้คนอื่นมองไม่เห็น ไร้เงาเมื่อกระทบกับแสงหรือแม้แต่การสะท้อนกับกระจก แรงของพวกมันเยอะระดับหนุ่มล่ำ 20 คน บังคับสิ่งของต่างๆ ให้เคลื่อนที่ไปยังจุดที่ต้องการ

สิ่งที่ตำนานระบุเกี่ยวกับการกำจัดแวมไพร์ให้เข็ดนั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนนับถือศาสนาต่างๆ เชื่อกัน เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ รวมไปถึงสมุนไพรมีกลิ่นแรงอย่าง กระเทียม ที่เรามักพบเจอกันในภาพยนตร์ วิธีการฆ่าแวมไพร์ที่แม้บอกว่าเป็นผีชีวิตอมตะก็มีหลากหลาย เช่น การตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ, การเผา, การตัดหัวแวมไพร์ด้วยจอบของสัปเหร่อ เป็นต้น ใครก็ตามหากโดนมันดูดเลือดจะกลายเป็นเหยื่ออันแสนโอชะของมันจากนั้นจะค่อยๆ กลายเป็นแวมไพร์ดูดเลือดคนอื่นต่อไปเรื่อยๆ

ในอดีตสมัยยุคกลางชาวยุโรปหวาดระแวงแวมไพร์อย่างมากขนาดยกให้อยู่ในจำพวกแม่มด, มนุษย์หมาป่า หากใครต้องสงสัยจะถูกลงโทษประหารทันที อย่างไรก็ตามตำนานแวมไพร์ถือเป็นเรื่องเล่าปรัมปราที่บอกไม่ได้ว่ามีจริงมากน้อยขนาดไหนแต่ชาวยุโรปในอดีตค่อนข้างเชื่อถือกับเรื่องเหล่านี้มากขนาดว่าบางบ้านมีการโรยเมล็ดพันธุ์ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผีแวมไพร์เข้ามาทำร้ายคนในบ้านอะไรทำนองนี้ อีกสิ่งหนึ่งก็คือคนเรายึดถือเรื่องผีสางสิ่งมองไม่เห็นมาตั้งแต่อดีตกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีเรื่องราวต่างๆ ให้ได้เชื่อถือกันมาตลอด